Filler สารเติมเต็มเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาร่องลึก
เวลา และอายุที่มากขึ้นทุกปี ทำให้ผิวเกิดร่องรอยแห่งวัย ผิวขาดความยืดหยุ่น กล้ามเนื้อขาดความหนาแน่น รวมถึงสภาพชั้นไขมันใต้ผิวหนังเปลี่ยนไป ทำให้ผิวหย่อนยานไม่กระชับ เกิดร่องแก้ม ร่องปาก ตีนกา คนเอซัยเรียกริ้วรอยบนใบหน้าว่า เป็นริ้วรอบแห่งความรอบรู้และประสบการ์ณชีวิต เพราะริ้วรอยหล่าวนี้เกิดจากที่ เราแสดงสีหน้าทางอารมณ์ทุกวัน ยิ่งนานวัยรอยก็ยิ่งลึก จากรอยตื้นๆกลายเป็นรอยย่นในที่สุดตามวัยที่มากขึ้น
ริ้ว รอยนี้คือ ร่องแก้มเกิดจากการยิ้ม ช่องระหว่างตาหรือหัวคิ้ว แก้มห้อยหรือแก้มตก รอยบริเวณเหนือริมฝีปากและช่วงล่าง รอยต่างๆหล่าวนี้ สามารถรักษาได้และยังสามารถจำกัดรอบแผลเป็นจากสิว อีสุกอีใส และแผลเป็นได้ด้วย
การใช้วิทยาการ ฟิลเลอร์คือการเสริมเติมร่องเหล่านั้น โดยเฉพาะหากรอยเหล่านั้น ลึกเกินกว่าการรักษาด้วย laser และลึกเกินกว่าการทำdiamond peel เป็นต้น
ฟิลเลอร์ มีกี่ชนิด?
สารเติมเต็มมีหลายชนิด แบ่งเป็น กลุ่มสารเติมเต็มตามธรรมชาติซึ่งอยู่ได้ชั่วคราว และสารเติมเต็มที่เป็นสิ่งแปลกปลอม เช่น silicon ซึ่งจะอยู่ได้ถาวรในผิวหนัง แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงเฉพาะสารเติมเต็มตามธรรมชาติที่ทาง Proderma ใช้ นั่นก็คือ “Hyaluronic acid”
เป็นสารเติมเต็มผิวตามธรรมชาติ ที่มีความปลอดภัยสูงไม่จำเป็นต้องทำการทดสอบการแพ้ก่อนทำการรักษา Hyaluronic acid ที่มีอยู่ในผิวตามธรรมชาตินั้นทำหน้าที่เก็บกักน้ำให้ผิวและรักษาช่องว่าง เซลล์ผิวหนัง เมื่ออายุมากขึ้นปริมาณ Hyaluronic acid จะลดลงทำให้ผิวแห้งกร้านและเกิดริ้วรอยได้ง่าย
เหนือกว่า filler hyaluronic acid ทั่วไปกับ Juvederm
- ในขบวนการผลิตมีการผสมยาชา เข้าไปในโมเลกุลของ hyaluronic acid เรียบร้อย ทำให้ขณะฉีดมีความรู้สึกเจ็บน้อยลงมาก จนแทบไม่รู้สึกเลย คนไข้จะรู้สึกสบายมากขึ้น
- โมเลกุลของ hyaluronic acid ที่เป็นเนื้อเดียวกัน ไม่แขวนลอยอยู่กับตัวนำพาเหมือน fillers ตัวอื่นๆ ข้อได้เปรียบนี้ทำให้ Juvederm อยู่ได้นานขึ้นไม่สลายออกจากผิวหนังเราเร็วเกินไปนัก รวมถึงลดโอกาสการเกิดก้อน หรือผิวไม่เรียบหลังฉีดรวมทั้งความรู้สึกไม่เป็นเนื้อเดียวกันกับผิวใน บริเวณที่ฉีดได้
- Juvederm ลดโอกาสการกระจายตัวหรือไหลออกไปสู่บริเวณข้างเคียงได้ค่อนข้างมากกว่า และทำให้ใช้ยาปริมาณน้อยลงเนื่องจากไม่ได้ยุบลงหลังฉีดมากเหมือน fillers ตัวอื่น และได้ผลการรักษาที่สวยงามมากขึ้น
- Juvederm มีความเข้มข้นของปริมาณ hyaluronic acid ต่อ 1มิลลิลิตร (mL) ในปริมาณที่มากกว่า fillers ตัวอื่นๆ
การรักษาแบบ Fillers เหมาะกับ :
-
ลบรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า
-
ฉีดเสริมเติมความอิ่มของริมฝีปาก
-
เสริมจมูกโดยไม่ต้องผ่าตัด
-
ฉีดร่องปากลึก ร่องแก้มที่เกิจากการยิ้มรวมถึงร่องลุกที่เกิดจากวัยที่มากขึ้น
-
เพิ่ม ปรับ สภาพของแก้ม ริมฝีปาก หรือผิวหน้าเพื่อผิวสาวเยาว์วัย
เมื่อไรจึงจะเห็นผล?
Filler เป็นทรีทเมนท์ที่เห็นผลการรักษาทันทีหลังทำเสร็จ
การรักษา ก่อนและหลังการรักษา Treatment
การรักษาใช้เวลาประมาณ 15 – 40 นาที และไม่ต้องเสียเวลาในการพักฟื้นแต่อย่างใด
การ ฉีดฟิลเลอร์ซ้ำที่ร่องเดิมนั้นอาจต้องทำซ้ำตามความเหมาะสม เพราะร่างกายเราสามารถดูดซึมสารฟิลเลอร์ได้ สารจึงสลายไปตามเวลา หากแต่เราสามารถหวังผลและคงความสวยได้นาน 9-18 เดือนโดนไม่ต้องผ่าตัดแต่อย่างใด
ผลข้างเคียงจากการรักษา Reactions
บาง กรณีอาจมีอาการข้างเคียงบ้าง เช่น บวม เจ็บ ปวด คัน และจะค่อยๆหายไปเองภายในวันสองวัน หรืออยากคลำได้ก้อน ซึ่งมักหายไปได้เองในเวลา 1-2 อาทิตย์
[important]Juvederm มีข้อห้ามใช้ในกรณีต่อไปนี้
-
ผู้ป่วยที่มีปฎิกิริยาแพ้ต่อสาร hyaluronic acid
-
ผู้ป่วยที่มีประวัติแพ้ยาชา
-
หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
-
ผู้ป่วยที่มีโอกาสหรือประวัติการเกิดแผลเป็นนูนได้ง่าย
-
ไม่ควรได้รับการฉีด Juvederm ควบคู่กับการทำเลเซอร์ที่เกิดแผล หรือการลอกผิวหน้าในบริเวณที่ทำการฉีด
-
ไม่ควรฉีด Juvederm ในบริเวณที่ผิวหนังมีการอักเสบ หรือมีการติดเชื้อ
ทังนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนการฉีดJuvederm ทุกครั้งเพื่อให้แพทย์ประเมินและเลือกชนิดของ Juvederm ที่เหมาะสมกับปัญหา
ข้อปฏิบิติตัวหลังทำ filler
-
หลีกเลี่ยงการทำ LASER หรือ treatment ประมาณ 2 สัปดาห์
-
งดการดื่ม alcohol หรือสูบบุหรี่ประมาณ 2-3 วันเพื่อลดอาการบวม แดง และช้ำ บริเวณที่ฉีด
ค่าบริการ เริ่มต้นครั้งละ 15,000 – 30,000 บาท ทั้งนี้ราคาขึ้นกับปริมาณยา และตำแหน่งที่ฉีด